Part III (ยังไม่ได้ Part IV) เทียบของใหม่คือPart III ต้องสอบ Part IV ใน 6 เดือนหรือ ยื่น PRC4 หรือ ผ่าน กระบวนการ Professional Experience Recognition (PER) Process (ยังไม่ประกาศรายละเอียด) คือการรายงานประสพการณ์ที่เกี่ยวข้องแทนเนื้อหาที่ต้องสอบตามที่จะประกาศต่อไป

สอบ part -3 ปีนี้น่าจะง่ายกว่าปีหน้าที่ต้องรวมบางส่วนของ part 4 เข้ามาด้วย

ปัญหาของ part 3 part 4 ก็คือมันเน้นความรู้เฉพาะทางมากๆ เช่น IT บัญชี การเงิน การจัดการ ซึ่งส่วนใหญ่จะได้เรียนมาจากสถาบันศึกษา เช่น คนจบ IT จบบัญชี หรือ MBA มาจะได้เปรียบ ปัญหาก็คือหาคนที่รู้ครบยาก และเนื้อหาพวกนี้ต่างก็มีสัดส่วนมากพอควรในแต่ละ part เช่น IT อาจกินเนื้อหาถึง 30% ของ part 3 ผมเคยเจอหลายคนที่ไม่ผ่าน part 3 เสียทีด้วยปัญหาแบบนี้ คือไม่รู้เรื่อง IT มั่ง ไม่รู้เรื่องบัญชีมั่ง แล้วทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นเพราะไม่ได้จบหรือทำงานด้านนั้นมาโดยตรง การติวก็ไม่พอให้เกิดความเข้าใจ เพราะมันไม่เข้าสมองแต่แรก ส่วน part 4 ยังพอหลบๆ ไปสอบ ccsa หรือ cisa (สำหรับผู้ตรวจไอที) แทนได้

การรวม part 3 part 4 เข้าด้วยกันผมจึงมองเป็นแง่ดี สำหรับคนที่อาจจะอ่อนด้านหนึ่งด้านใดเป็นพิเศษ เช่น IT จะมีโอกาสมากขึ้น จากเดิมสมมติทำ IT ไม่ได้เลย ก็จะต้องตั้งเป้าทำเรื่องอื่นให้ได้เกือบเต็มถึงจะผ่าน แต่พอรวมเป็น part เดียวแล้ว เนื้อหา IT จะเหลือแค่ 10-15% เท่านั้น ต้องดูหนังสือมากขึ้นก็จริง แต่ก็มีโอกาสลุ้นสูงขึ้นครับ

แต่ในคนที่มองทุกเนื้อหายากง่ายเท่ากันหมด ไม่มีอะไรถนัดหรือไม่ถนัดเป็นพิเศษ การสอบระบบเดิมจะช่วยให้สามารถค่อยๆ อ่านแล้วสอบเก็บเนื้อหาไปที่ละส่วน ไม่ต้องระดมอ่านทั้งหมดในครั้งเดียว จะมองแบบนี้ก็ได้ แต่เวลาก็เหลือน้อยแล้วนะครับ ต้องเร่งมือสอบให้ผ่านทั้ง  part 3 part 4 ก่อนกลางปีหน้า ถ้าผ่านแค่ part 3 หรือ part 4 อันเดียว จะยุ่งยากในการเทียบเข้าระบบใหม่ ผมไม่แนะนำครับ

 สงสัยเรื่อง Part III และ Part IV พอดีค่ะ

เนื่องจากผู้ตรวจสอบภายในของกรุงเทพมหานครบางท่านสอบผ่าน Part I และ Part II แล้ว

กำลังวางแผนชีวิตเกี่ยวกับ Part ที่เหลือ

....ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยให้คำแนะนำค่ะ