Home | เกี่ยวกับชมรมฯ | อบรม / สัมมนา | เอกสารการอบรม | ภาพกิจกรรมชมรมฯ |
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลที่เราหามาเพียงพอต่อการเขียนรายงานให้ออกมาดี | |
เพราะว่า รายงานการตรวจสอบภายในที่ดี ต้องมาจากข้อมูล เอกสาร ที่เราหามาได้อย่างเพียงพอ เเล้วเราจะทราบได้อย่างไรครับ ว่าข้อมูลหรือเอกสาร ที่เราหามาจากผู้รับการตรวจเพียงพอต่อการเขียนรายงานตรวจสอบ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ธนวิชญ์ :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-15 10:42:23 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3346176) | |
ตอบคุณ ธนวิชญ์
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า คำ "เพียงพอ" ในที่นี้ เราไม่ได้หมายถึงปริมาณของข้อมูลหรือเอกสาร แต่หมายถึงความชัดเจนที่ข้อมูลหรือเอกสารนั้นนำไปสู่การสรุปผลการตรวจสอบ
ข้อมูลหรือเอกสาร ที่เราหามาจากผู้รับการตรวจเพียงพอต่อการเขียนรายงานตรวจสอบ เมื่อข้อมูลหรือเอกสารนั้นทำให้เรา หรือผู้ตรวจสอบที่มีความรู้โดยทั่วไป สามารถสรุปลงความเห็นได้ในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลหรือเอกสารที่เป็นหลักฐานทางตรงสำคัญและจำเป็นที่สุด ขาดไม่ได้ เพราะจะสนับสนุนข้อสรุปโดยตัวมันเอง เช่น หนังสือยืนยันยอดที่ส่งไปถึงลูกหนี้และได้รับการตอบกลับ เป็นหลักฐานทางตรงที่สำคัญต่อการตรวจสอบความมีตัวตนของลูกหนี้ แต่ถ้าข้อมูลหรือเอกสารเป็นหลักฐานทางอ้อมอาจต้องมีการหาหลักฐานอื่นมาประกอบเพื่อให้สรุปผลหรือการแสดงความเห็นมีน้ำหนักมากขึ้น จึงจะเพียงพอ เช่น การสัมภาษณ์ถึงความครบถ้วนของสินค้า ดูชั่วโมงการอบรมเพื่อประเมินความเข้าใจ สังเกตการณ์ 5 นาทีเพื่อสรุปว่าปฏิบัติสม่ำเสมอ เป็นต้น
นอกจากนี้ กรณีข้อมูลหรือเอกสารเป็นลักษณะของการสังเกตการณ์เพียงบางส่วน บางรายการ หรือบางช่วงเวลา จำนวนของตัวอย่างข้อมูลหรือเอกสารจะต้องเพียงพอด้วยเช่นกัน หมายความว่า ตัวอย่างข้อมูลหรือเอกสารที่เราตรวจนั้นเป็นตัวแทนของสิ่งที่จะตรวจได้หรือประชากรหรือไม่ พูดอีกวิธีคือความเสี่ยงที่ข้อสรุปของเราจากการพิจารณาตัวอย่างจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของตัวประชากรนั้นควรจะต้อง "ต่ำ" ซึ่งแตกต่างกันไป แล้วแต่กรณี เช่น
- ถ้าจะประเมินความพอเพียงและความมีประสิทธิผลของการควบคุมภายในของทั้งแผนก แล้วเรากำหนดขอบเขตตรวจสอบเพียงบางกระบวนการหรือหน่วยปฏิบัติงานที่ไม่สำคัญในแผนก ย่อมจะไม่เพียงพอ (แต่โดยข้อเท็จจริงเราอาจตรวจทุกกระบวนการหรือหน่วยปฏิบัติงานไม่ได้ด้วยข้อจำกัดเวลา ในกรณีนี้การประเมินการควบคุมเบื้องต้นและการประเมินความเสี่ยงจะมีบทบาทในการเลือกกระบวนการหรือหน่วยปฏิบัติงานที่สำคัญขึ้นตรวจสอบ)
- ถ้าจะทดสอบว่าคำสั่งซื้อได้รับการอนุมัติโดยผู้มีอำนาจอย่างเหมาะสม เราก็ควรกำหนดขอบเขตตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (เป็นตัวแทนของกระบวนการอนุมัติคำสั่งซื้อในปัจจุบัน ถ้าเพิ่งมีการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานเมื่อ 2 เดือนก่อน ขอบเขต 2 เดือนจะเหมาะสมกว่า ถ้าด้วยข้อจำกัดเวลา ทำให้เราตรวจทุกคำสั่งซื้อไม่ได้ เราจะใช้วิธีสุ่ม แทนที่จะลดขอบเขตเหลือทุกรายการที่เกิดใน 1-2 สัปดาห์) - ถ้าจะทดสอบการปฏิบัติงานตามเงื่อนไขสัญญา ก็ควรกำหนดขอบเขตตรวจสอบเฉพาะสัญญาที่ยังมีผลบังคับ หลายๆ สัญญา และมีมูลค่าสัญญาไม่ต่ำเกินไป (สัญญาที่ไม่มีผลบังคับแล้ว หรือมูลค่าต่ำ มีความเสี่ยงน้อยกว่า) - ถ้าจะทดสอบความถูกต้องของรายการค่าใช้จ่ายเพื่อรับรองงบ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัช ทิสโก้ วันที่ตอบ 2012-10-18 08:12:45 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3346177) | |
- ถ้าจะทดสอบความถูกต้องของรายการค่าใช้จ่ายเพื่อรับรองงบประจำปี ก็ควรกำหนดขอบเขตรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างปี และเก็บตัวอย่างโดย dollar sampling (รายการค่าใช้จ่ายมูลค่าสูงมีผลกระทบมากกว่า) หลักการกำหนดจำนวนตัวอย่างข้อมูลหรือเอกสาร และระยะเวลาที่เป็นขอบเขตของการตรวจสอบ ขึ้นกับความเพียงพอในการบรรลุวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ คำ "ความเพียงพอ" เป็นความเห็นของผู้วางโปรแกรมการตรวจ เป็นการใช้ดุลพินิจของผู้ตรวจสอบกำหนดจำนวนตัวอย่างที่เหมาะสม ขึ้นกับความสำคัญของการควบคุม ระดับความเบี่ยงเบนที่ยอมรับได้ เวลาและค่าใช้จ่ายในการเก็บตัวอย่างเทียบกับประโยชน์ที่จะได้จากการตรวจสอบ ซึ่งโปรแกรมการตรวจต้องได้รับการทบทวนและเห็นชอบหรืออนุมัติโดยหัวหน้าทีมตรวจสอบหรือหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบ ก่อนปฏิบัติการตรวจ ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัช ทิสโก้ วันที่ตอบ 2012-10-18 08:14:49 |
[1] |
Copyright © 2012 All Rights Reserved. |
Visitors : 342546 |