ReadyPlanet.com


สงสัยการทำงานของบริษัททวงหนี้ซึ่งมีการเชื่อมโยงกับธนาคารในการประจานลูกหนี้


ผมเป็นเพียงลูกค้าธนาคารหนึ่ง เป็น บ/ช. บัตรเครดิต ซึ่งถูกปิด บ/ช. เป็น NPL ไปตั้งแต่ปี 42 คือ หยุดการติดต่อกับธนาคารไปตั้งแต่นั้น และไม่ได้มีการติดตามทวงถามจากทางธนาคารเลย

มาเมื่อ 2 - 3 ปี มานี้ ก็มีบริษัททวงหนี้ส่งทั้งจดหมายทวงแบบขู่ ทั้งส่งคนมาถามข้อมูลจากเพื่อนบ้านเวลาผมไม่อยู่บ้าน ทั้งโทรไปที่ที่ทำงานตอนที่ผมไม่อยู่ฝากข้อความทวงหนี้ผ่านเพื่อนร่วมงาน

ทีแรกผมว่าจะยอมจ่ายให้ในตัวเงินระดับ 15% ที่ทวง แต่ทางนั้นไม่ยอมจะขออย่างน้อย 30% ผมกลับเห็นว่ามากไปและดูทางนั้นต้องการรวบรัดให้ผมติดต่อกับทางธนาคารโดยตรง หรือไม่ก็ขู่จะดำเนินคดี  ผมเอะใจจึงแจ้งไปว่า งั้นผมขอให้เขาเอาหนังสือมอบอำนาจจากธนาคารมา พร้อมกับ Statement ย้อนหลังไป 6 เดือน แล้วให้ไปเจรจากันที่สำนักงานศาลยุติธรรมเลย  (ยอดหนี้ที่ระบุมาราวสองแสน ผมบอกว่าเอา Statement ที่ธนาคารรับรองมา หากตัวเลขตรงกับบางส่วนที่ผมมี ถ้าถูกต้องผมจ่ายเต็มหมด) ปรากฏว่าทางนั้นเงียบหายไป แล้วเปลี่ยนหน้าเป็นบริษัทใหม่มาแทน ทำแบบเดิม แล้วเวียนใหม่จนครบประมาณ 4 - 5 บริษัทแล้ว แต่ที่ผมสงสัยมากก็คือ ทางธนาคารทั้งๆที่ไม่เคยติดต่อผมมาเลย จู่ๆก็มีหนังสือส่งสำเนา statement ที่แจ้งไปทางเครดิตบูโรมาให้ผมที่บ้าน และเป็นตัวเลขคนละตัวกันกับที่ได้รับจากบริษัททวงหนี้ Statement ที่ว่านี้ผมได้รับ สองครั้งจากสองรอบปี ปีละฉบับ ซึ่งก็ไม่ตรงกับที่โดนทวงทีแรก มาทีหลังบริษัททวงหนี้หน้าใหม่กลับปรับตัวเลขลดลงจนเท่ากับของใน Statement ที่เครดิตบูโร และตลอดมาก็คือ ขอหนังสือมอบอำนาจมาดูไม่ได้ ขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือนก็ไม่ได้ แล้วก็แจ้งให้ผมติดต่อกับธนาคารโดยตรง

ผมค้นข้อมูลจากเน็ตพบว่า 2 บริษัทที่ทวงผมเป็นบริษัทลูกของธนาคารนี้

ผมสงสัยความไม่ชอบมาพากลของกลุ่มงานที่ทวงหนี้ผมอยู่นี้ เชื่อว่าเป็นกลไกการทำงานปรกติที่หยุดไม่ได้ ขณะที่ก็มีร่องรอยให้น่าสงสัยว่า มีการทุจริตยอดหนี้ที่แท้จริงของผม หรืออาจมีการยักยอกเงินไปจากช่วงระหว่างผมเป็น NPL ซึ่งทุ่มหาเงินมาจ่ายหนี้โดยไม่ได้เก็บหลักฐานส่งเงินไว้ครบ (มีแค่บางส่วน) และไม่ได้ตรวจสอบเลยว่า จ่ายไปแล้วเป็นดอกเบี้ยเท่าไร เงินต้นเท่าไร แล้วเหลือเท่าไร?

ผมกำลังเตรียมดำเนินคดีกับธนาคารนี้ หรือไม่ก็ประกาศทางสื่อฯ แต่อยากทราบ ที่ชมรมนี้มีข้อมูลกลางอะไรบ้างที่จะอธิบายได้ว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดของผมเอง

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ศิวพจณ์ :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-17 12:34:13


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3266012)

เป็นหนี้ก็ควรต้องชดใช้ หากคุณเป็นหนี้ธนาคารจริง และมีความสามารถจ่ายได้ ก็ควรจ่าย ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ให้เสียประวัติโดยใช่เหตุ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ก็ควรสอบถามจากทางธนาคารผู้เป็นเจ้าหนี้ ผมเชื่อว่าทุกธนาคารมีการเก็บหลักฐานที่ดี น่าจะสามารถอธิบายให้เข้าใจชัดเจนตรงกันได้ หากแน่ใจว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่คุณติดต่อด้วย ทุกธนาคารต่างก็มีช่องทางให้ลูกค้ายื่นคำร้องเรียน โดยดำเนินการเป็นการอิสระทั้งสิ้น เชื่อแน่ว่าถ้าคุณเข้าไปติดต่อโดยตรง น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด กับทั้งตัวคุณเองและธนาคาร ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัช ทิสโก้ วันที่ตอบ 2010-11-22 10:29:37


ความคิดเห็นที่ 2 (3266025)

ขอบคุณที่แสดงความเห็น แต่ก็ไม่ได้ตอบข้อข้องใจที่ผมแสดงไว้

ก็ในเมื่อเป็นที่ยอมรับกันว่า ธนาคารส่วนใหญ่ก็ต้องมีระบบเก็บข้อมูลที่รัดกุม ตรวจสอบได้

การทวงหนี้กรณีของผม ซึ่งก็เป็นเงินหลักแสน ผมในฐานะลูกหนี้ (ที่ถูกกล่าวหา) ก็ย่อมต้องตรวจสอบได้ ในฐานะผู้บริโภค

แต่ด้วยพฤติการณ์ของบริษัททวงหนี้ ซึ่งผมรู้แน่ใจว่า เป็นบริษัทลูกของธนาคาร ที่ไม่ยอมรับการตรวจสอบ/ถามหาบัญชีรับ-จ่าย

ก็ไม่ทราบว่า ตามการกล่าวอ้างของบริษัททวงหนี้ว่า เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของธนาคาร จะเอาข้ออ้างตรงไหนอีกมาปฏิเสธการไม่แสดงข้อมูลที่ผมร้องขอ หรือไม่รับรู้เรื่องระหว่างผมกับธนาคาร

ผมก็ขอยืนยันไว้ตรงนี้ว่า จะชดใช้หนี้ที่เป็นจริงครบทุกบาททุกสตางค์ และจะไม่ใช้ข้ออ้างเรื่องอายุความมาปฏิเสธการใช้หนี้ เว้นเสียแต่ธนาคารจะใช้ข้ออ้างอะไรก็ตามสุดแล้วแต่ที่จะไม่แสดงบัญชีย้อนหลังตามที่ผมเรียกร้อง ข้ออ้างอะไรก็ตามที่จะไม่แสดงบัญชีย้อนหลัง ก็เป็นเรื่องและความรับผิดชอบของการทำงานภายในของธนาคารเอง ก็ในเมื่อมทำหลักฐานมาประกาศ/ประจานว่าผมเป็นหนี้ ก็ต้องแสดงบัญชีย้อนหลังได้ตามการเรียกร้องโดยปรกติของอดีตลูกค้าธนาคารอย่างผม

ผมจึงขออาศัยกระดานถาม-ตอบตรงนี้ ตรวจสอบข้อสงสัยในพฤติการณ์ของธนาคารและบริษัททวงหนี้ว่า มีคำอธิบายจากแหล่งกลางที่ยอมรับได้กับสามัญสำนึกของคนธรรมดาที่เป็นเพียงลูกค้าธนาคารคนหนึ่งหรือไม่ว่า ผมมีการเข้าใจผิดในสาระสำคัญพื้นฐานหรือไม่???

จะให้ผมตรวจสอบกับหน่วยร้องเรียนของธนาคารนั้น ไม่ใช่เรื่องของผม ก็ในเมื่อธนาคารไม่ติดต่อผมโดยตรง แต่ใช้บริษัททวงหนี้อ้างกฎหมายและวิธีการที่ไม่ตรงไปตรงมาสารพัดมากดดันให้ยอมรับสภาพหนี้ทีทวงถาม โดยไม่ยอมรับการตรวจสอบ

ผมก็ถือว่า ผมก็ไม่ต้องคุยกับธนาคารแล้วครับ ธนาคารหมดความน่าเชื่อถือสำหรับผมแล้ว ในเมื่อผมได้พิสูจน์แล้วว่ามีการร่วมมือกันระหว่างธนาคารและบริษัททวงหนี้ และผมก็ได้เสนอผ่านบริษัททวงหนี้ไปหลายบริษัทที่เปลี่ยนหน้ากันเข้ามาทวงผมเกือบสิบบริษัทให้แค่ 15% ตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ยอมรับและกลับทำกันในแนวเดียว คือ ถามหา/ขอดูบัญชีย้อนหลังไม่ได้ แต่ให้ติดต่อธนาคารโดยตรง แล้วก็ส่งทั้งจดหมายทั้งโทรศัพท์ไปกวนผมกึ่งประจานกันกลายๆ ขอโทษครับ นี่เป็นหลุมพรางอะไรหรือเปล่า หรือจงใจหาเรื่องประจาน ??? ซึ่งผมก็ขอบอกว่าหมดความอดทน ถ้าประวัติ์เครดิตของผมต้องเกิดขึ้นจากความฉ้อฉลเอาเปรียบ ผมก็ไม่จำเป็นต้องรักษาครับ ไม่มีประโยชน์ เพราะมาจากเรื่องโกหกและป้ายสีมากกว่าความถูกต้องเที่ยงตรง

ผมแสดงชื่อ+นามสกุลจริงให้ไว้แล้วครับ เชื่อว่าชมรมของท่านต้องมีคนที่สามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลประวัติ์เครดิตผมได้ ซึ่งก็หมายถึงท่านย่อมตรวจสอบการรายงานข้อมูลเครดิตที่ธนาคารรายงานผมไว้ พวกท่านก็ลองตรวจสอบกันดูว่ามีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด?? เพราะผมเข้าใจตามชื่อของชมรมนี้ว่า เป็นชมรมของผู้ตรวจสอบภายในธนาคารและสถาบันการเงิน ผมแสดงตัวให้ตรวจสอบในที่ของท่านซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบโดยชื่อ ที่เหลือก็แล้วแต่ท่านว่าจะทำอะไรต่อไปหรือไม่? และจะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของระบบสถาบันการเงินที่มีประชาชนเป็นผู้ได้/เสียกับระบบ หรือจะปล่อยให้เป็นไปตามแบบที่ผมเล่ามานี้  อย่างไรก็ขอบคุณ คุณไพรัช อีกครั้งที่แสดงความเห็น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิวพจณ์ ล้อเสริมวัฒนา วันที่ตอบ 2010-11-22 11:26:26


ความคิดเห็นที่ 3 (3266027)

ขอบคุณที่แสดงความเห็น แต่ก็ไม่ได้ตอบข้อข้องใจที่ผมแสดงไว้

ก็ในเมื่อเป็นที่ยอมรับกันว่า ธนาคารส่วนใหญ่ก็ต้องมีระบบเก็บข้อมูลที่รัดกุม ตรวจสอบได้

การทวงหนี้กรณีของผม ซึ่งก็เป็นเงินหลักแสน ผมในฐานะลูกหนี้ (ที่ถูกกล่าวหา) ก็ย่อมต้องตรวจสอบได้ ในฐานะผู้บริโภค

แต่ด้วยพฤติการณ์ของบริษัททวงหนี้ ซึ่งผมรู้แน่ใจว่า เป็นบริษัทลูกของธนาคาร ที่ไม่ยอมรับการตรวจสอบ/ถามหาบัญชีรับ-จ่าย

ก็ไม่ทราบว่า ตามการกล่าวอ้างของบริษัททวงหนี้ว่า เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของธนาคาร จะเอาข้ออ้างตรงไหนอีกมาปฏิเสธการไม่แสดงข้อมูลที่ผมร้องขอ หรือไม่รับรู้เรื่องระหว่างผมกับธนาคาร

ผมก็ขอยืนยันไว้ตรงนี้ว่า จะชดใช้หนี้ที่เป็นจริงครบทุกบาททุกสตางค์ และจะไม่ใช้ข้ออ้างเรื่องอายุความมาปฏิเสธการใช้หนี้ เว้นเสียแต่ธนาคารจะใช้ข้ออ้างอะไรก็ตามสุดแล้วแต่ที่จะไม่แสดงบัญชีย้อนหลังตามที่ผมเรียกร้อง ข้ออ้างอะไรก็ตามที่จะไม่แสดงบัญชีย้อนหลัง ก็เป็นเรื่องและความรับผิดชอบของการทำงานภายในของธนาคารเอง ก็ในเมื่อมทำหลักฐานมาประกาศ/ประจานว่าผมเป็นหนี้ ก็ต้องแสดงบัญชีย้อนหลังได้ตามการเรียกร้องโดยปรกติของอดีตลูกค้าธนาคารอย่างผม

ผมจึงขออาศัยกระดานถาม-ตอบตรงนี้ ตรวจสอบข้อสงสัยในพฤติการณ์ของธนาคารและบริษัททวงหนี้ว่า มีคำอธิบายจากแหล่งกลางที่ยอมรับได้กับสามัญสำนึกของคนธรรมดาที่เป็นเพียงลูกค้าธนาคารคนหนึ่งหรือไม่ว่า ผมมีการเข้าใจผิดในสาระสำคัญพื้นฐานหรือไม่???

จะให้ผมตรวจสอบกับหน่วยร้องเรียนของธนาคารนั้น ไม่ใช่เรื่องของผม ก็ในเมื่อธนาคารไม่ติดต่อผมโดยตรง แต่ใช้บริษัททวงหนี้อ้างกฎหมายและวิธีการที่ไม่ตรงไปตรงมาสารพัดมากดดันให้ยอมรับสภาพหนี้ทีทวงถาม โดยไม่ยอมรับการตรวจสอบ

ผมก็ถือว่า ผมก็ไม่ต้องคุยกับธนาคารแล้วครับ ธนาคารหมดความน่าเชื่อถือสำหรับผมแล้ว ในเมื่อผมได้พิสูจน์แล้วว่ามีการร่วมมือกันระหว่างธนาคารและบริษัททวงหนี้ และผมก็ได้เสนอผ่านบริษัททวงหนี้ไปหลายบริษัทที่เปลี่ยนหน้ากันเข้ามาทวงผมเกือบสิบบริษัทให้แค่ 15% ตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ยอมรับและกลับทำกันในแนวเดียว คือ ถามหา/ขอดูบัญชีย้อนหลังไม่ได้ แต่ให้ติดต่อธนาคารโดยตรง แล้วก็ส่งทั้งจดหมายทั้งโทรศัพท์ไปกวนผมกึ่งประจานกันกลายๆ ขอโทษครับ นี่เป็นหลุมพรางอะไรหรือเปล่า หรือจงใจหาเรื่องประจาน ??? ซึ่งผมก็ขอบอกว่าหมดความอดทน ถ้าประวัติ์เครดิตของผมต้องเกิดขึ้นจากความฉ้อฉลเอาเปรียบ ผมก็ไม่จำเป็นต้องรักษาครับ ไม่มีประโยชน์ เพราะมาจากเรื่องโกหกและป้ายสีมากกว่าความถูกต้องเที่ยงตรง

ผมแสดงชื่อ+นามสกุลจริงให้ไว้แล้วครับ เชื่อว่าชมรมของท่านต้องมีคนที่สามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลประวัติ์เครดิตผมได้ ซึ่งก็หมายถึงท่านย่อมตรวจสอบการรายงานข้อมูลเครดิตที่ธนาคารรายงานผมไว้ พวกท่านก็ลองตรวจสอบกันดูว่ามีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด?? เพราะผมเข้าใจตามชื่อของชมรมนี้ว่า เป็นชมรมของผู้ตรวจสอบภายในธนาคารและสถาบันการเงิน ผมแสดงตัวให้ตรวจสอบในที่ของท่านซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบโดยชื่อ ที่เหลือก็แล้วแต่ท่านว่าจะทำอะไรต่อไปหรือไม่? และจะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของระบบสถาบันการเงินที่มีประชาชนเป็นผู้ได้/เสียกับระบบ หรือจะปล่อยให้เป็นไปตามแบบที่ผมเล่ามานี้  อย่างไรก็ขอบคุณ คุณไพรัช อีกครั้งที่แสดงความเห็น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิวพจณ์ ล้อเสริมวัฒนา วันที่ตอบ 2010-11-22 11:31:49


ความคิดเห็นที่ 4 (3269262)

ผมรอความเห็นเพิ่มเติมมานานพอสมควร

ค่อนข้างผิดหวังกับชมรมนี้  ผมเข้ามาในบอร์ดนี้ก็ด้วย "ความเข้าใจภาษาไทย" ในข้อความของคุณไพรัช ด้านล่างนี้ครับ

***************************************

ชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต  (FRAUD MANAGEMENT CLUB) เป็นชมรมที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น ดำเนินการภายใต้สมาคมธนาคารไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อ

1. แลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างสมาชิกของชมรม และข้อมูลการบริหารจัดการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในทุกผลิตภัณฑ์ของสถาบันการเงินการธนาคาร เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการทุจริต
2. ส่งเสริมความรู้ทางวิชาการ และเทคนิคใหม่ๆ ในการป้องกันการทุจริต
3. ส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกของชมรม
4. เพื่อให้นำเสนอข้อมูล รายงานสถานการณ์และให้ข้อเสนอแนะต่อสมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการทุจริตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
5. ประสานงานกับองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทั้งภายใน และต่างประเทศ
6. ศูนย์รวบรวมข้อมูลข่าวสาร และสื่อสารให้ความรู้ทั้งกับภาครัฐและภาคประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและประชาชน

ในการประชุม “ชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต” ครั้งที่ 3 / 2552 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ได้เลือกตั้งกรรมการบริหารจากตัวแทนสมาชิก 9 สถาบัน ดังต่อไปนี้

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  คุณสมชาย พิชิตธุรกิจ
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)  คุณพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  คุณรัตนา รัตนะ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  คุณทศพร รัตนมาศทิพย์
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  คุณเกรียงไกร ภู่วงศ์ไพบูลย์
ธนาคารออมสิน    คุณเทอดธรรม สุวิชาวรพันธุ์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์   คุณวรณัฐ สุโฆษสมิต
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)  คุณขจรศักดิ์ อาจพูล
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)  คุณธวัช ไทรราหู

โดยคณะกรรมการบริหารมีวาระ 2 ปี ตามข้อบังคับ มี คุณทศพร รัตนมาศทิพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน

อนึ่ง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2552 คุณไพรัช  ศรีวิไลฤทธิ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)  และคุณพัฒนา บุญสุข ธนาคารธนชาตจำกัด (มหาชน)  ประธานและรองประธาน ชมรมผู้ตรวจสอบภายในธนาคารและสถาบันการเงิน ได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ในชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต

***************************************

ผมได้แสดงตัว+ข้อมูลจริงเพื่อให้ชมรมนี้ได้ตรวจสอบ "ข้อข้องใจและเป็นข้อกล่าวหา" ซึ่งมีหลักฐานพร้อมเสนอให้พิจารณา

ในฐานะที่เป็นลูกค้าผู้บริโภคบริการของสถาบันการเงินซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทยอยู่ด้วย

 

ขอคำแนะนำในการยื่นเรื่องร้องเรียนธนาคารที่เป็นคู่กรณีของผมอย่างเป็นกิจลักษณะด้วยครับ หรือ

เรื่องที่ผมเสนอมานี้ "ใหญ่เกินไป และ/หรือ ยากเกินกว่าที่ชมรมนี้จะรับรู้ หรือ ดำเนินการ ตามความหมายโดยนัยของชื่อชมรม ที่มาของชมรม และข้อความของชมรมตามที่ผมคัดลอกมาอ้างไว้ด้านบนนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิวพจณ์ ล้อเสริมวัฒนา วันที่ตอบ 2010-12-14 11:17:45


ความคิดเห็นที่ 5 (3270490)

เรื่องของคุณไม่ได้ยากหรือใหญ่เกินไปหรอกครับ เพียงแต่คุณมาผิดที่ เว็บนี้เป็นของชมรม "ผู้ตรวจสอบภายในธนาคาร" ข้อความที่คุณยกมาเป็นข้อความที่ผมลงเพื่อประชาสัมพันธ์ชมรมอื่นคือ "ชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต" ให้ผู้เข้าเว็บนี้ได้รู้จัก และผมก็ได้พยายามให้คำแนะนำเท่าที่จะให้ได้ไปแล้ว คือ ให้สอบถามข้อสงสัยจากทางธนาคารผู้เป็นเจ้าหนี้โดยตรง อย่าปล่อยทิ้งไว้อีกเลย นอกจากข้อสงสัยของคุณจะไม่ได้รับความกระจ่างแล้ว ปัญหาหนี้สินของคุณซึ่งค้างชำระมานานก็จะยิ่งเจรจาแก้ไขยากขึ้นด้วย  หากแน่ใจว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่คุณติดต่อด้วย ก็ควรยื่นเรื่องร้องเรียนตามช่องทางที่ธนาคารจัดให้ แต่ละธนาคารจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก โดยดำเนินการเป็นอิสระ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัช ทิสโก้ วันที่ตอบ 2010-12-20 08:24:27


ความคิดเห็นที่ 6 (3270998)

ขอบคุณคุณไพรัชอีกครั้ง

ผมคงสมัครใจไปดำเนินคดีดีกว่าครับ ในระบบธนาคารที่ผ่านมา มีเล่ห์กลแฝงในการเอาเปรียบลูกหนี้แบบฉ้อฉลอยู่มากพอควร

ที่พูดนี้ขออ้างอิงรายการ "ทวงสิทธิ์ลูกหนี้ไทย" ของช่อง ASTV ผู้จัดการเมื่อ 12 ธ.ค. และ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ บสท. หรือ บรรษัท บริหารสินทรัพย์ฯ

ซึ่งน่าสนใจมากครับ แล้วเมื่อมาคิดพ่วงกับที่เจอมาด้วยตัวเอง คือ แผนการทวงหนี้ในวงธนาคารส่วนที่ผมเจอ ที่ค่อนข้างล่อหลอกและหลอกหล่อทางข้อกฎหมาย และ "อาจ" มากไปจนถึงการใช้เอกสารเท็จ และ/หรือ กล่าวเท็จ 

แล้วก็เริ่มต้นด้วยการข่มขู่ว่า "จะดำเนินคดี"

คราวนี้ หลังจากอดกลั้น อดทน พูดกันดีๆมากว่า 2 ปี เพราะผมอยากอยู่สงบ ค้าขาย เลี่ยงค้าความ

มาถึงวันนี้ ผมก็จะขอสนองรับการ "ท้าค้าความ" ล่ะครับ เครดิตผม ผมสร้างมาเองครับ แต่กรณีผม ผมว่าธนาคารเป็นคนทำลาย ซึ่งในอีกไม่นาน ผมก็จะพิสูจน์ได้ว่า สภาพคำว่า "เครดิต" นี้ มันปั่นกันสร้างกันแบบฉ้อฉลได้ จากในวงธนาคารนี่แหละครับ

และผมได้แสดงเจตนาและพยายามมาพึ่งที่นี่โดยเข้าใจว่า น่าจะเป็นแหล่งสุดท้ายที่ผมพอวางใจได้ และหาทางออกที่ไม่ต้องไปศาลได้ ต้องขอโทษที่ผมเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ อ้อ ใครที่เป็น หรือ กำลังจะเป็นสภาพอย่างผม หรือ"เคย" โดนกระทำอย่างผม ถ้ามั่นใจว่ามีเจตนาที่จะใช้หนี้ให้ครบถ้วนถูกต้อง แต่ถูกหลอกมาก่อนจนชำระหนี้ไปเกินจากความเป็นจริง ลองปรึกษาที่หมายเลขด้านล่างนี้ครับ ตามที่รับฟังจากในรายการ มีลูกหนี้ที่โดน บสท. เล่นงานเรื่องหนี้แบบมั่วๆจนเสียหาย จำนวน19 ราย กำลังรวมตัวกันจะฟ้องทั้งแพ่ง+อาญากับเจ้าหน้าที่ของ บสท. นั่นแหละครับ

ศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ 02-3191161-4

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิวพจณ์ ล้อเสริมวัฒนา วันที่ตอบ 2010-12-22 13:13:21


ความคิดเห็นที่ 7 (4233751)

 เป็นการทวงค่างาน จากคนไทย ที่สร้างงานชิ้นนี้และโดนแอบลิงค์ดึงเอาไปทำเอง แถมผมยังแก้ข้อผิดพลาดไห้อีก อัปเกรดไห้อีก และงานแอปป้องกันความปลอดภัยที่เป็นรูปเสือ ก็ผมสร้าง โดนไปอีกรอบ สัญญาจะไห้มา 1000000000000000บาท ไม่มีมาหลายปีและ จาก ouddysisamoson2020@gm  คนไทยที่โดยมนุษงานปลายแถวขโมย ไม่เป็นใรยังไงก็ยังคิดเป็นเพื่อนเสมอ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทวงเงินค่าชิ้นงาน วันที่ตอบ 2021-04-01 15:38:38



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2012 All Rights Reserved.